การป้องกันกำจัดปลวก โดยการติดตั้งระบบท่อ
( PIPE TREATMENT SYSTEM)
การป้องกันกำจัดปลวก โดยระบบท่อ (PIPE TREATMENT SYSTEM) คือ การติดตั้งท่อสำหรับอัดน้ำยาเคมี ไว้ใต้อาคารในระหว่างการก่อสร้าง และใช้เครื่องฉีดอัดแรงดันสูงอัดน้ำยากำจัดปลวกเข้าไปในท่อ เพื่อฉีดและพ่นน้ำยาเคมีเคลือบผิวดินใต้อาคาร ทำให้พื้นดินส่วนดังกล่าวเป็นพิษเกินกว่าที่ปลวกจะอาศัยอยู่ หรือแทรกตัวผ่านขึ้นมาทำลายตัวอาคาร หรือบ้านเรือน
การป้องกันและกำจัดปลวกโดยการติดตั้งระบบท่อ มีข้อดีดังนี้
1. เมื่อครบกำหนดเวลาอัดน้ำยา สามารถอัดน้ำยาเคมีเข้าไปใต้พื้นอาคารเข้าทางหัวอัดที่เตรียมไว้โดยรอบอาคารได้โดยสะดวก
2. ไม่ทำให้พื้นอาคารซึ่งใช้วัสดุอย่างดีเกิดการเสียหาย และมีความชื้นเกิดขึ้นได้ เนื่องจากการเจาะพื้น
3. ไม่ต้องนำน้ำยาเคมีจำนวนมาก ๆ ผ่านเข้าไปในตัวอาคาร เพื่อความปลอดภัยจากน้ำยาเคมีต่อผู้อาศัย
4. มีความคุ้มค่าในระยะยาว สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในอนาคต เนื่องจากท่อมีความคงทนคู่กับตัวบ้านไปตลอดอายุของบ้าน ไม่ต้องเจาะพื้น เพื่ออัดน้ำยาอีก
วิธีการปฏิบัติงานติดตั้งท่อตามขั้นตอนระหว่างการก่อสร้าง มีดังนี้
1. เมื่อฝ่ายก่อสร้างได้ทำการเทคานคอดินเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นจึงทำการวางท่อ PE ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง20 มิลลิเมตร โดยวาง ท่อขนานกับคานด้านในตามแนวคานคอดินของโครงสร้างบ้านทุกคาน โดยใช้ระยะห่างของหัวปล่อยสารเคมีทุก ๆ 80 เซนติเมตร ระยะการ ยึดแคมป์ทุก 1 เมตร ระยะความยาวของแต่ละท่อใช้ระยะไม่เกิน 25 เมตร ต่อ 1 หัวอัด
2. เก็บหัวสำหรับอัดน้ำยาเคมีกำจัดปลวกไว้บริเวณพื้นที่ภายนอกบ้านเป็นช่วงๆ โดยใช้กล่องเก็บหัวท่อ หรือยึดท่อติดผนังให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
3. หลังจากอัดถมดินทรายชั้นสุดท้ายจนแน่นเรียบร้อยแล้วเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเทพื้นคอนกรีตจะใช้เครื่องอัดน้ำยาแรงดันสูงอัดน้ำยาเข้าท่อและอัดน้ำยาลงใต้ดินตามแนวคานคอดินด้านในและด้านนอก โดยแต่ละจุดเว้นระยะห่างกัน20 ซม. ตลอดแนวคานทุกด้าน และสเปร์น้ำยาเคลือบผิวดินเต็มพื้นที่ทุกตารางนิ้ว
4. อัดน้ำยาเคมีเพื่อป้องกันปลวกรอบ ๆ ตัวบ้าน โดยใช้ระยะห่างประมาณ 1 เมตร อัดน้ำยาเคมีพร้อมสเปรย์เคลือบผิวดินเพื่อป้องกันและกำจัด ปลวกภายนอก ที่จะเข้ามาบริเวณภายในตัวบ้าน
5. ทำการตรวจเช็คทุก ๆ 6 เดือน ตลอดระยะเวลาสัญญาที่ตกลงไว้ ตามใบรับประกันที่มอบให้ไว้กับเจ้าของบ้าน
คุณสมบัติเด่นของท่อ PE
1. สามารถใช้งานทั่วไป ได้แก่ อุตสาหกรรมเคมี อุตสาหกรรมอาหาร การประปา งานเกษตร สนามกอล์ฟ เหมืองแร่ ท่อร้อยสายไฟ สายเคเบิ้ล ท่อส่งแก๊สธรรมชาติ ท่อน้ำทิ้ง
2. มีน้ำหนักเบากว่าท่อเหล็กประมาณ 1 ต่อ 5 เท่า ของท่อเหล็ก สามารถโค้งงอได้ 20-40 เท่า ไม่หักงอหรือแตกร้าวจากการทรุดตัวของพื้น ดิน มีความยืดหย่นสูง
3. ทนต่อความร้อน ทนต่อแสงแดด ทำให้ไม่กรอบ แตก ทนต่อแรงกระแทก แรงกดทับต่างๆ จากการฝังดินได้ดี
4. ทนต่อสารเคมี มีคุณสมบัติเป็นกลางทางเคมี จึงทนต่อกรดด่างได้ดี ดังนั้นไม่ว่าจะติดตั้งใต้ดินหรือในน้ำทะเล จึงไม่ผุกร่อนหรือเป็นสนิม
5. ทนแรงเสียดทาน ผิวภายในท่อมีความเรียบมัน จึงมีความเสียดทานต่ำ ทำให้ของเหลวไหลผ่านท่อได้สะดวก สามารถทนแรงดัน ได้ 265.8 ปอนด์ (PSI) หรือ 18.3บาร์
6. อายุการใช้งานนาน สามารถทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศ ที่เปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี แม้สภาวะที่ร้อนจัด หรือเย็นจัด เพราะได้ผลิตตาม มาตรฐานอุตสาหกรรม(มอก.)